เฟซบุ้คเพจ

เพิ่มเติมอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับช่องสื่อสารผ่านเฟสบุค https://www.facebook.com/monsoonphotonewspage/ ด้วยข่าวสั้นจากสำนักข่าวต่างๆ ทั่วโลก รวดเร็วทันเหตุการณ์

Friday, May 28, 2010

การเดินทางไปชายหาด Jones Beach

พรุ่งนี้แล้วสำหรับการแสดงบินผลาดแผลงของฝูงบิน Blue Angels ที่โจนส์บีช
วันนี้ก็แนะนำการเดินทางไปชายหาดโจนส์บีชกันอีกครั้ง ดังนี้

หากอยู่ใน Manhattan สามารถนั่งรถ subway ไปที่ลงที่ Penn Station (34 street) แล้วซื้อตัวรถไฟ LIRR ไปกลับ Jones Beach ได้เลยในราคา $16.50 โดยต้องนั่งรถไฟจาก Penn Station แล้วไป ลงที่สถานี Freeport เพื่อต่อรถบัส (N88) ไปยังโจนส์บีช

ส่วนคนที่อยู่ใน Queens ให้นั่งรถไฟใต้ดินสาย E/J/Z ไปลงสถานที่ Sutphin แล้วซื้อตั๋วรถไฟ LIRR ไปกลับโจนส์บีช ได้เลยเช่นเดียวกัน แต่ราคาแค่ $13.50 แล้วก็นั่งรถไฟไป ลงที่ Freeport เพื่อ transfer รถบัสเช่นเดียวกัน 

ราคาตั๋วไป Jones Beach ทั้ง 2 ราคานั้น รวมค่ารถไฟ LIRR และรถบัส N88 เรียบร้อยแล้วทั้งขาไปและขากลับ อย่าทำหายก็แล้วกัน


โดยชายหาด Jones Beach จะเปิดช่วงหน้าร้อน ดังนั้นก่อนการเดินทางให้เช็คตารางเวลาของรถบัส(N88)ให้ดีเสียก่อน สำหรับในปีนี้ 2010 มีตารางกำหนดเวลาดังนี้
  • วันแรกของรถบัส 88 เปิดให้บริการในช่วงวันหยุด (weekend) คือวันพรุ่งนี้ 29 พ.ค. และวันสุดท้ายที่จะให้บริการช่วงวันหยุดคือวันที่ 12 ก.ย.
  • แต่วันแรกของรถบัส N88 เปิดให้บริการในช่วงวันธรรมดา (Weekday) คือวันที่ 28 มิ.ย. และวันสุดท้ายที่จะให้บริการในวันปกติคือวันที่ 6 ก.ย.


ที่ชายหายโจนส์บีชรถบัส N88 จะจอด 3 แห่งคือ
  1. ป้ายแรก West Bathhouse 
  2. ป้ายสอง Central Mall
  3. ป้ายสุดท้าย East Bathhouse
    ส่วนป้ายที่สี่ จะจอดเฉพาะวันที่มีการแสดงในโรงมหรสพเท่านั้น
  4. ป้ายพิเศษ The Theater

จากนั้นก็วิ่งกลับไปที่สถานีรถไฟ Freeport วนเช่นนี้ไปทั้งวัน

Monday, May 24, 2010

ร่วมลงนามถวายพระพร

กรมประชาสัมพันธ์ ได้จัดทำสมุดลงนามถวายพระพรแก่ในหลวง

ใครรักในหลวง เข้าไปร่วมลงนามได้ที่


ก็ขอประชาสัมพันธ์มาให้เป็นที่ทราบโดยทั่วกัน


Saturday, May 22, 2010

ประวัติฝูงบิน Blue Angels

เนื่องด้วยสิ้นเดือนนี้ (29-30 พ.ค.2010) ฝูงบินผลาดแผลงกองทัพเรือสหรัฐนาม  Blue Angels จะมาทำการแสดงที่ชายหาด Jones Beach ใน Long Island ก็เลยขอนำประวัติของฝูงบินนี้มานำเสนอให้ทราบกันก่อนโดยทั่วกัน


ประวัติของฝูงบิน Blue Angels
ฝูงบินผลาดแผลงของกองทัพเรือสหรัฐ ชื่อ Blue Angels ก่อตั้งขึ้นในปี 1946 ภายหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2  โดยหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการกองทัพเรือนาย Chester W. Nimitz ได้สั่งการให้จัดตั้งทีมบินผลาดแผลงขึ้นเพื่อประโยชน์ด้านมวลชนในกิจการบินของกองทัพเรือ

ฝูงบิน Blue Angels สามารถบินทำการแสดงครั้งแรกได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี คือในราวเดือนมิถนายน 1946 ที่บ้านเกิดคือ Navel Air Station  Jacksonville รัฐฟลอริด้า หัวหน้าฝูงบินคนแรกคือ LCDR Roy Voris นามเรียกขาน Butch ซึ่งเครื่องบินแบบแรกที่ใช้ก็คือเครื่อง Grumman F6F Hellcat --->

สองเดือนต่อมาวันที่ 25 สิงหาคม 1946 ทีม Blue Angels ได้เปลี่ยนเครื่องบินใหม่เป็นเครื่อง Grumman F8F Bearcat ในปี 1947 หัวหน้าฝูงบิน LCDR Robert Clarke ได้นำเสนอการบินที่มีชื่อเสียงจวบจนปัจจุบันคือ การบินรูปเพชร (Diamond) ---->

สิ้นทศวรรค 1940 ฝูงบิน Blue Angels ได้ทำการบินด้วยเครื่องบินไอพ่นเป็นครั้งแรก นั่นคือเครื่อง Grumman F9F-2 Panther สืบเนื่องจากการเกิดสงครามเกาหลี ปี 1950 ฝูงบินฯ ได้ย้ายไปรายงานต่อกองเรือบรรทุกเครื่องบิน  USS Princeton สังกัดฝูงบินขับไล่ที่ 191 (VF-191) “Satan’s Kittens”

ในปีต่อมาฝูงบินฯ ได้ปรับปรุงโครงสร้าง และย้ายไปขึ้นกับสถานีอากาศกองทัพเรือ Corpus รัฐเท็กซัส ซึ่งที่นี่เองฝูงบินฯ ได้เริ่มบินด้วยเครื่องบิน Panther รุ่นใหม่ที่เร็วกว่าเดิมคือ F9F-5 ฝูงบิน Blue Angels ได้ประจำอยู่ที่เท็กซัสจนกระทั่งฤดูหนาวของปี 1954 จากนั้นได้ย้ายมาประจำการ ณ ที่ตั้งปัจจุบัน NAS Pensacola รัฐฟลอริด้า และทำการเปลี่ยนเครื่องบินอีกครั้งเป็น F9F-8 Cougar

ช่วงเวลา 20 ปีถัดมา ฝูงบิน Blue Angels ได้เปลี่ยนเครืองบินอีก 2 ครั้งคือในปี 1957 เป็นเครื่อง Grumman F11F-1 Tiger และในปี 1969 เป็นเครื่อง McDonnell Douglass F-4J Phantom II

เดือนธันวาคม 1974 ฝูงบินฯ ได้เริ่มบินด้วยเครื่อง McDonnell Douglass A4F Skyhawk II และได้ปรับโครงสร้างเป็นกองบินสาธิตฯ ทำให้ตำแหน่งหัวหน้าฝูง (Flight Leader) เปลี่ยนไปเป็นผู้บังคับหน่วย (Commanding Officer) โดยผู้บังคับหน่วยบินสาธิตฯ คนแรกคือ CDR Tony Less อีกทั้งกองบินฯ ยังมีเจ้าหน้าทีสนับสนุนและปรับภารกิจใหม่ เพื่อขยายกำลังพล

ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 1986 เป็นการครบรอบ 40 ปีของ Blue Angels ได้มีการฉลองการครบรอบด้วยการเปิดตัวเครื่องบินแบบใหม่ และได้ใช้แสดงมาตราบจนปัจจุบันนี้ ก็คือเครื่องบิน McDonnell Douglass F/A-18 Hornet

ปี 1992 มีผู้คนมากกว่าหนึ่งล้านคนได้หลั่งไหลเข้าชมการแสดงของฝูงบิน Blue Angels ที่ไปเปิดการแสดงในภาคพื้นยุโรป เป็นเวลา 30 วัน โดยเปิดการแสดงที่ สวีเดน, ฟินแลนด์, รัสเซีย, โรมาเนีย, บัลเกเรีย, อิตาลี, อังกฤษ และสเปน นับเป็นการแสดงฯ ครั้งแรกในรอบ 19 ปี

การแสดงโชว์ในปี 2009 ประมาณว่ามีผู้คนเข้าชมกว่า 8 ล้านคน และนับจากปี 1946 จนถึงปัจจุบัน มีผู้คนมากกว่า 463 ล้านคนได้ชมการแสดงของฝูงบิน Blue Angels ไปแล้ว
แปลจากเว็บทางการของ Blue Angels

Sunday, May 16, 2010

ยลโฉม iPhone 4

ภาพประกอบจาก gizmodo.com


ภาพที่เห็นอยู่นี้คือเครื่องโทรศัพท์รุ่นใหม่ของ iPhone ที่คาดว่าจะนำออกจำหน่ายในเดือนหน้านี้(มิถุนายน)ในอเมริกา ลองมาดูกันว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

สิ่งใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา

1. เพิ่มกล้องด้านหน้า (บริเวณใกล้หูฟัง) อีกหนึ่งตัว
2. เลนส์กล้องด้านหลังใหญ่กว่าเดิม(ใหญ่กว่ารุ่น 3GS)
3. กล้องด้านหลังมีไฟแฟลช
4. ใช้ Sim card เล็กลง (แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPad) เรียกว่า Micro-Sim
5. จอความคมชัดกว่ารุ่น 3GS
6. เพิ่มไมค์อีกหนึ่งตัว ด้านบนบริเวณใกล้ช่องเสียบต่อสายหูฟัง
7. ปุ่มควบคุมเสียงแยกออกเป็นสองอัน (เดิมติดกันเป็นปุ่มเดียว)
8. ปุ่ม Power, Mute, Volume เป็นโลหะ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากเดิม

1. ด้านหลังเรียบ ไม่โค้งมนเหมือนก่อน
2. ขอบด้านข้างเป็นอะลูมิเนียมรอบตลอด
3. จอขนาดเล็กกว่ารุ่น 3GS แต่คมชัดกว่า
4. รูปทรงทักษิณมากขึ้น (คือเหลี่ยมๆ นั้นเอง อย่าทำเป็นเหวง)
5. น้ำหนักมากขึ้น 3 กรัม
6. แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น 16%

ตอนแรกก็กะว่าจะเปลี่ยนไปใช้โทรศัพท์ของ Metro PCS เพราะค่าบริการถูกกว่ากันครึ่งๆ โดยเล็งเครื่อง Black berry ไว้(ุถ้าเขามีบริการ) แต่หลังจากเช็คข้อมูลในอินเตอร์เน็ท และสอบถามจากคนที่ใช้ Black berry อยู่ ก็มาลงตัวกับบทสรุปของน้องคนหนึ่งพูดให้ฟัง คำนั้นคือ

"เพื่อนของนาที่เปลี่ยนจาก BlackBerry ไปใช้ iPhone ไม่มีใครบ่น แต่เพื่อนที่ใช้ iPhone แล้วเปลี่ยนมาใช้ BlackBerry บ่นกันทุกคน"

ประกอบกับพอได้เห็นโฉมใหม่ของ iPhone4 แล้ว ชักลังเลแหะ คิดว่าอาจจะตกเป็นทาส iPhone 4 ไปอีกสองปีแหง๋ๆ

ศีรษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน

ผมชื่นชมกับทุกคนที่มีความกตัญญูจงรักภักดีต่อในหลวง
คุณพงษ์พัฒน์กล่าวได้ตรงใจกระผมมากที่สุด

Saturday, May 15, 2010

คนนิวยอร์กรักในหลวง

อาจจะล่าช้าไปสักนิด เพราะเพิ่งจะครีเอทบล็อคของตนเอง
แต่ยังไงก็ต้องเอามาให้ชมกัน เนื่องด้วยกระผมเป็นนายทหารนอกประจำการภายใต้ฝ่าละอองธุรีพระบาทของในหลวง
แม้จะอยุ่ต่างบ้านต่างเมือง แต่ก็ยังจงรักภักดีตราบจนชีพวาย



1 พ.ค.2010 เป็นวันที่พลังเงียบจากนิวยอร์ก นิวเจอร์ซี่ คอนเน็กติกัต และรัฐใกล้เคียง
มาร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง และสนับสนุนรัฐบาล ที่หน้าสถานกงสุลใหญ่นิวยอร์ก

ไทยได้ขึ้นหน้าหนึ่ง New York Times



ไม่รู้ว่าจะดีใจ หรือเศร้าใจ กันดีแน่