เฟซบุ้คเพจ

เพิ่มเติมอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับช่องสื่อสารผ่านเฟสบุค https://www.facebook.com/monsoonphotonewspage/ ด้วยข่าวสั้นจากสำนักข่าวต่างๆ ทั่วโลก รวดเร็วทันเหตุการณ์

Monday, May 26, 2014

การพัฒนาอาวุธของอิหร่าน

โพสนี้เกี่ยวกับการพัฒนาแบบพึ่งพาตนเอง แม้ว่าอิหร่านจะถูกนานาชาติกีดกันการค้าขาย แต่อิหร่านก็ดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของตนเองขึ้นมา
แม้ว่าอาวุธที่อิหร่านพัฒนาเองอาจจะมีประสิทธิภาพเทียบไม่ได้กับอาวุธอันทรงพลานุภาพของโลกตะวันตก แต่จุดที่นำเสนอก็คือความพยายามที่จะยืนหยัดด้วยตนเอง
IAIO และ DIO
วันนี้นำอาวุธของอิหร่านมาเสนอกัน 2 สิ่ง
สิ่งแรก คือ เฮลิคอปเตอร์โจมตี "Toufan 2" (Storm 2)
สร้างโดย Iran Aviation Industries Organization (IAIO)

เฮลิคอปเตอร์โจมตี Toufan นั้นพัฒนามาจากพื้นฐานของ ฮ.AH-1J Sea Cobra ของสหรัฐฯ ที่อิหร่านมีอยู่ในครอบครอง
AH-1J

โดย ฮ. Toufan 1 เผยโฉมในปี 2010 ผลิตขึ้นมา 10 ลำ และพัฒนาปรับปรุงจนเป็น Toufan 2 ในปี 2013 ผลิตขึ้นมาจำนวน 2 ลำ


สิ่งที่สอง คือ ปืนไรเฟิลสังหาร KH2002 "Khaybar"

สร้างโดย Defence Industries Organization (DIO)

ว่ากันว่าปืน KH2002 "Khaybar" ของอิหร่านนี้ กลไกการทำงานภายในเหมือนปืน M-16 ของอเมริกา อิหร่านพัฒนาโดยได้รับการช่วยเหลือจากประเทศจีนด้วยองค์ความรู้ในปืน CQ และปืน QBZ-95
Norinco CQ 5.56
ก็คงจบเรื่องที่จะนำเสนอของอิหร่านแต่เพียงแค่นี้

********************
มาต่อกันที่ปืนแบบ Bullpup กัน เพราะปืนชนิดนี้มีข้อถกเถียงกันมากมาย ซึ่งถ้าปืนชนิดนี้ไม่ดี ทำไมแม้แต่อิหร่านก็ยังพัฒนาปืนแบบนี้ขึ้นมาใช้ในกองทัพของตนเอง
ลองมาดูปืน Bullpup ที่ประจำการเป็นอาวุธประจำกายหลักในกองทัพต่างๆ ว่ามีประเทศไหนกันอีกบ้าง
  • ปี 1977 - ประเทศออสเตรีย ประจำการปืน Steyr AUG
    Steyr AUG
  • ปี 1978 - ประเทศฝรั่งเศส ประจำการปืน FAMAS
    FAMAS
  • ปี 1985 - ประเทศอังกฤษ ประจำการปืน SA80
    SA80
                 - กองกำลังป้องกันนิวซีแลนด์ ประจำการปืน Steyr AUG
                 - กองทัพบกโอมาน ประจำการปืน Steyr AUG

  • ปี 1990 - หน่วยรบพิเศษรัสเซีย ประจำการปืน OTs-14 Groza, ปืน A-91 และปืนซุ่มยิง Dragunov SVU
    OTs-14 Groza
A-91 7.62มม.
    Dragunov SVU
  • ปี 1997 - ประเทศจีน ประจำการปืน QBZ-95
    QBZ 95
  • ปี 1999 - ประเทศสิงคโปร์ ประจำการปืน SAR21
    SAR21
  • ปี 2004 - ประเทศเบลเยี่ยม ประจำการปืน FN F2000
    FN F2000
                - หน่วยรบพิเศษประเทศจอร์เจีย ประจำการปืน TAR 21
  • ปี 2007 - ประเทศสโลวาเนีย ประจำการปืน FN F2000
                 - กองทัพบกโคเอเทีย ประจำการปืน VHS
VHS
  • ปี 2009 - หน่วยทหารราบในแนวหน้าประเทศอิสราเอล ประจำการปืน X95
    MTAR 21 (X95)
  • ตรงนี้ก็มีเรื่องเล่าเพิ่มเติมกันหน่อย ตามข่าวทั่วๆ ไปรวมทั้งในวิกีฯ ด้วยจะเสนอเหมือนกันคืออิสราเอลประจำการปืน TAR 21 ในปี 2003 แต่ในความเป็นจริงนั้นอิสราเอลแค่แถลงว่าประสงค์ที่จะนำปืน TAR 21 เข้าประจำการในกองทัพ แต่การส่งมอบปืนชุดแรกจริงกระทำกันในปี 2006
  • และพอปี 2009 ปืน Micro Tavor 21 หรือ  X95 ก็ถูกนำเข้าเพื่อทดแทนปืน TAR 21 ที่เทอะทะกว่า

กองทัพบกไทยก็มีนโยบายเปลี่ยนปืนประจำกายเป็นแบบ Bullpup และเริ่มนำปืน TAR-21 ของอิสราเอลเข้าประจำการตั้งแต่ปี 2007 (พ.ศ.2550) เรียกว่า ปลย. 50
ปืน Tavor TAR 21
ซึ่งก็มีเสียงบ่นจากทหารใน ทบ.ไม่เห็นด้วยกับการประจำการปืน TAR-21 เนื่องจากกลไกการทำงานภายในของปืนมีความซับซ้อนทำให้การดูแลบำรุงรักษาในระดับผู้ใช้งานค่อนข้างจำกัด ไม่เหมือนกับปืน M16 หรือปืน HK33
จุดนี้ก็อยากให้พวกเขาเหล่านั้นเข้าใจด้วยว่าความก้าวหน้าในการพัฒนาสิ่งของต่างๆ ก็ต้องนำมาซึ่งความซับซ้อนในเรื่องของกลไกและความยุ่งยากของเทคโนโลยี่มากขึ้น มิเช่นนั้นก็ไม่ใช่การพัฒนา
ซึ่งถ้าจะทำการเปรียบเทียบให้เห็นกันอย่างง่ายๆ ก็คือ ปืน M16 และ HK33 ก็เหมือนกับรถจักรยานที่ใช้โซ่คล้องล้อในการขับเคลื่อน การบำรุงดูแลรักษาในระดับผู้ใช้งานสามารถกระทำได้ง่าย รวมไปถึงซ่อมแซมด้วยตนเอง
ส่วนปืน TAR-21 ก็จะเปรียบเหมือนรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน การบำรุงดูแลรักษาในระดับผู้ใช้งานก็ย่อมจำกัด การซ่อมแซมก็ต้องเป็นระดับช่าง

หากกองทัพต้องการพัฒนาก็ย่อมต้องก้าวเดินไปข้างหน้าตามยุคตามสมัย การย้ำอยู่กับที่ไม่มีประโยชน์อันใดเท่ากับปล่อยให้ศัตรูที่มุ่งร้ายพัฒนาก้าวข้ามหน้าเราไป

ดังนั้นผู้ปฏิบัติงานก็ควรเข้าใจและยอมรับสภาพในวิถีของความเป็นไป พร้อมทั้งทำความคุ้นเคยกับมัน ศึกษาการบำรุงรักษาในระดับผู้ใช้งานให้ถ่องแท้ และถ้าหากพบเจอจุดอ่อนหรือจุดบกพร่องในการใช้งานก็ช่วยกันหาวิธีแก้ไข พร้อมทั้งนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
สิ่งเหล่านี้คือพฤติกรรมที่ถูกต้องที่ควรกระทำ

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าข้อดีของปืนแบบ Bullpup คือตัวปืนสั้นลงแต่ความยาวของลำกล้องปืนยังเท่าเดิม ซึ่งผลก็คือระยะยิงไกลสุดไม่ได้ลดลง
ซึ่งเรื่องนี้ก็มีบทเรียนมาแล้วจากสงครามในอัฟกานิสถาน คือทหารอเมริกันใช้ปืน M4 (ซึงก็คือปืน M16 ที่มีความยาวของลำกล้องปืนน้อยลง เพื่อให้ปืนสั้นขึ้น) ยิงไม่ถึงข้าศึกที่ซุ่มโจมตีโดยใช้ปืน AK47

แม้แต่พม่าก็ยังวิจัยพัฒนาปืน bullpup ของตนเอง
หน่วยรบพิเศษ ทร.เวียดนามก็ใช้ปืน TAR 21











No comments:

Post a Comment